เสพติดซีรีส์มากไป ทำไมถึงไม่ใช่เรื่องดีกันนะ?
ละครชุดหรือซีรีส์ถือเป็นอีกหนึ่งกระแสที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยเองก็มีซีรีส์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ที่สำคัญไม่ได้มีเพียงแค่ซีรีส์ในไทยเท่านั้นที่ฮ็อตฮิต แต่ยังมีซีรีส์ต่างประเทศเข้ามาสร้างสีสันให้กับการใช้ชีวิตเยอะมาก
และด้วยกระแสที่แรงดีไม่มีตกจึงทำให้หลาย ๆ คนเกิดอาการเสพติดซีรีส์ คลั่งไคล้ ถึงขั้นที่เวลาที่ควรนอนกลับไม่นอน แต่เวลาที่ไม่ควรนอนกลับอ่อนเพลียมากกว่าเก่า ซึ่งหากใครที่กำลังประสบกับปัญหานี้บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ เพราะนั่นนอกจากจะทำให้ระบบในร่างกายทำงานผิดปกติแล้ว มันยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคุณอีกด้วย

Binge Watching ภัยร้ายที่ส่งผลต่อร่างกายและสมอง
หลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นคำว่า Binge Watching ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว ซึ่งความหมายของคำนี้จริง ๆ ทางโรงพยาบาลเพชรเวช ได้ระบุเอาไว้ว่า เป็นพฤติกรรมของคนที่เสพติดการดูซีรีส์มากจนเกินไป ดูตั้งแต่เวลากลางคืนจนถึงตอนเช้า โดยไม่ได้พักผ่อนสายตา ร่างกาย และสมองอย่างที่ควรเป็น
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณยอมอดหลับอดนอน มาจากการที่ฮอร์โมน Corticotropin-Releasing Hormone หลั่งออกมาเมื่อเกิดอาการตื่นเต้นหรือสงสัย จะเกิดขึ้นได้เยอะในช่วงท้าย ๆ ที่ซีรีส์ทิ้งปมบางอย่างเอาไว้ แต่เมื่อคุณยอมที่จะอดหลับอดนอนเพื่อดูถึงเช้าจนซีรีส์จบ ร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมน Dopamine ที่เป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ทำให้รู้สึกดี และเกิดความผ่อนคลาย

แต่แน่นอนเลยว่าหากคุณปล่อยให้ร่างกายของคุณทำงานเป็นวัฏจักรแบบนี้ ทั้งสมอง ร่างกาย และสภาพจิตใจของคุณจะไม่เกิดผลดีด้านบวกแน่นอน ซึ่งผลกระทบจาก Binge Watching มีดังนี้
- เวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ : ก็แน่นอนล่ะ คุณเล่นลากยาวไปจนถึงเช้าแบบนี้ ย่อมส่งผลให้ร่างกายเกิดความเหนื่อยล้าสะสม และหากปล่อยไว้มันก็จะเป็นประตูสำคัญที่เปิดต้อนรับ ‘โรคร้าย’ แล้วยิ่งบวกกับคุณชอบดื่มแอลกอฮอล์ ชอบกินของจุกจิก และไม่ออกกำลังกาย ภัยร้ายอย่างโรคอ้วนก็จะมาถึงคุณได้เช่นกัน
- กระทบต่อกิจวัตรประจำวัน : เมื่อคุณเริ่มพักผ่อนไม่เป็นเวลา มันย่อมส่งผลกระทบต่อเรื่องอื่น ๆ เช่น การทำงาน การเรียน การรับประทานอาหาร แถมยังรู้สึกเพลียระหว่างวันจนไม่อยากทำอะไรนอกจากนอนอีกด้วย
- ระวัง Computer Vision Syndrome จะถามหา : โรคนี้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับสายตา ซึ่งหากเราใช้สายตาจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป ก็มักเกิดอาการตาล้า ปวดตา ตาพร่ามัว ทั้งยังมีอาการปวดหัวร่วมตัวเนื่องจากระบบประสาทตาเชื่อมต่อกับสมองนั่นเอง

คนทั่วโลกเริ่มมีพฤติกรรม Binge Watching กันมากขึ้น
หลายคนเลือกที่จะดูซีรีส์เพื่อหลีกหนีปัญหาบางอย่าง ทั้งเรื่องการเรียน การทำงาน ปัญหาคู่รัก ทะเลาะเบาะแว้ง ฯลฯ ซึ่งในปี 2017 ทาง Netflix ได้มีการเปิดเผยว่ามีประชากรมากกว่า 5 ล้านคน (อังกฤษ) ที่สามารถชมซีรีส์ทั้งซีซั่นย้ำว่าทั้งซีซั่นให้จบได้ภายใน 24 ชั่วโมง! ซึ่งเทียบในปี 2013 พบว่าตัวเลขของคนที่มีความสามารถนี้มีเพียงแค่ 2 แสนคนเท่านั้น
และเชื่อว่าในปัจจุบัน 2021 มีประชากรทั่วโลกที่สามารถรรับชมซีรีส์ได้ต่อเนื่องมากกว่า 5 ล้านคนแน่นอน นอกจากนี้เจสัน ลินซ์ ยังเคยเขียนบทความให้กับ Quartz อีกว่า Netflix มีสูตรตายตัวที่จะทำให้ผู้ชมคิดถึงรายการ หรือซีรีส์เรื่องนั้น ๆ ไปตลอดทั้งซีซั่น โดยจะเน้นเส้นเรื่องหลักที่มีความแข็งแรง ไม่รีบเฉลย พร้อมทิ้งปมที่เป็นจุดเชื่อมโยงไปยัง Part ต่อไป

ซึ่งแน่นอนเลยว่ามันได้ดีผลดีเกินคาด เพราะความรอไม่ได้ของคนจึงทำให้ยอมที่จะสละเวลา 5 – 6 ชั่วโมงเพื่อดูซีรีส์แบบยาว ๆ และเกิดประโยคสุดฮิต ‘ตอนเดียวไม่มีอยู่จริง’ อีกทั้งตัวละครบางตัวก็ไม่จำเป็นจะต้องโผล่มาตลอดทั้ง Part เพียงโผล่มาแค่บางฉากบางตอน หรือทิ้งท้ายด้วยใบหน้าของตัวละครนั้น ๆ เอาไว้ ก็สามารถสร้างความต้องการในการชมต่อไปได้แล้ว
แต่หากคุณเสพติดซีรีส์แต่รู้จักที่จะ Manage เวลาตัวเองให้เป็น รู้ว่าเวลาไหนควรนอน เวลาไหนควรทานข้าว หรือเวลาไหนควรพักผ่อนสมองเพื่อดูซีรีส์ แน่นอนเลยว่าอาหาร Binge Watching จะไม่ถามหาคุณอย่างแน่นอน เพราะเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นบริหารเวลาตัวเองให้เป็น แบ่งเวลาไปขยับร่างกาย เลือกทำประกันสุขภาพบ้าง ก็จะช่วยให้คุณอุ่นใจและหายกังวลกับโรคต่าง ๆ ได้มากเลยล่ะ